ผ่อนบ้านครบ 3 ปี มาวางแผนรีไฟแนนซ์กันเถอะ ทำยังไงให้ดอกเบี้ยและเงินต้นลด (เร็วที่สุด)

ผ่อนบ้านครบ 3 ปี มาวางแผนรีไฟแนนซ์กันเถอะ ทำยังไงให้ดอกเบี้ยและเงินต้นลด (เร็วที่สุด)

เรื่อง : home.co.th

เช็คสถานะอายุสินเชื่อเพื่อดูว่าผ่อนบ้านกันครบ 3 ปีหรือยัง

ถามว่าถ้าผ่อนไม่ครบ 3 ปี รีไฟแนนซ์ได้ไหม? คำตอบคือ ทำได้ค่ะ แต่ต้องเสียค่าธรรมเนียมหรือค่าปรับประมาณ 3% ของวงเงินกู้ค่ะ (อันนี้ไม่แนะนำนะคะ) เพราะฉะนั้นคนที่จะรีไฟแนนซ์ควรผ่อนกับธนาคารเดิมให้ครบ 3 ปีเพื่อที่จะไม่รีไฟแนนซ์ได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายส่วนนี้

 

ช็คเงื่อนไขและอัตราดอกเบี้ยแต่ละธนาคาร

ข้อนี้แนะนำให้เพื่อนๆ ไปธนาคารที่เค้าเปิดรับรีไฟแนนซ์ค่ะ (ไปธนาคารที่ห้างจะได้ครบหลายธนาคารเดินเข้า-ออกสบายๆ เลยค่ะ) ขั้นตอนนี้เพื่อเอาข้อมูลเงื่อนไขการรีไฟแนนซ์ของแต่ละธนาคารมาเปรียบเทียบกันเพื่อดูความเหมาะสมและความคุ้มค่าของการรีไฟแนนซ์ของเราค่ะ เช่น บางคนอยากผ่อนอีกยาวๆ แต่ได้ดอกเบี้ยต่ำ หรือบางคนอยากผ่อนสั้นๆ แบบจบเร็วๆ โปะกันไปเยอะๆ ก็เลือกเงื่อนไขให้เหมาะสม

 

เตรียมเอกสารให้พร้อมในการรีไฟแนนซ์

หลังจากเลือกได้แล้วว่าจะใช้แบงค์ไหนในการดำเนินการ เช่น

 

- สำเนาบัตรประชาชน/ทะเบียนบ้าน/ทะเบียนสมรส (กรณีจดทะเบียน)/ใบเปลี่ยนชื่อ

- สลิปเงินเดือน หรือหนังสือรับรองเงินเดือน

- เอกสารเดินบัญชีธนาคาร (อย่างน้อย 6 เดือนย้อนหลัง)

- หลักฐานการผ่อนชำระกับธนาคารเดิม

- สัญญาเงินกู้

- สัญญาจำนองและสัญญาต่อท้ายสัญญาจำนอง

- สำเนาโฉนดที่ดิน หรือหนังสือแสดงกรรมสิทธิ์ห้องชุด

*หมายเหตุ ขึ้นอยู่กับแต่ละธนาคาร

 

วางแผนการโปะ และการชำระหนี้ เพื่อให้ดอกเบี้ย+เงินต้นลดลง (ให้เร็วที่สุด)

หลังจากเลือกธนาคารได้แล้ว เราก็ทำเรื่องยื่นกู้ตามขั้นตอนและวางแผนการเงินตัวเองให้ดีค่ะ เช่น การโปะ การเพิ่มวงเงินชำระหนี้ในแต่ละเดือน

เพื่อให้ดอกเบี้ยและเงินต้นลดลงเร็วๆ ค่ะ ตัวอย่าง ผ่อนต่อเดือน 4,500 บาท เราจ่ายเพิ่มอีก 3,000 บาทต่อเดือน ก็จะช่วยลดเงินต้น และ

ดอกเบี้ยไปได้พอสมควรเลยค่ะ

 

ค่าใช้จ่ายเบื้องต้นในการรีไฟแนนซ์บ้าน

 

- ค่าประเมินราคาประมาณ 2-3 พันบาท

- ค่าจดจำนอง จ่ายให้กรมที่ดิน 1% ของวงเงินกู้

- ค่าอาการแสตมป์ 0.05% ของวงเงินกู้